กรรมการกู้เงินแทนบริษัท ทำได้หรือไม่ แล้วการเสียภาษีจะเป็นอย่างไร ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมใครเป็นคนรับปิดชอบ
การกินเจ ไม่ใช่แค่การกินผักละเว้นเนื้อสัตว์ แต่ในทางพุทธศาสนานิกายมหายาน อธิบายไว้ว่า การกินเจคือการที่ชาวพุทธดำรงตนรักษาศีล 8 รวมถึงไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม งดเว้นของเสพติดและอบายมุขทุกชนิด มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ
ในสมัยโบราณการกินเจกับคนจีนสมัยโบราณ มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้ามาก ทำให้เชื่อว่าเทพเจ้าไม่ได้ติดต่อสื่อสารได้กับทุกคน เทพเจ้ามักจะคุยกับเฉพาะคนที่เหมาะสมเท่านั้นซึ่งคนที่เหมาะสม
อาจจะเป็นโอรสสวรรค์ ฮ่องเต้ คนพิเศษที่สวรรค์อยากคุยด้วย และต้องเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ทั้งกาย และใจ ดังนั้น ใครที่จะไปขอร้องเรื่องสำคัญ ๆ กับเทพเจ้าก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ชำระจิตใจให้สะอาด เทพเจ้าถึงจะยอมสื่อสารด้วย และให้พรตามที่ร้องขอ เป็นต้น
ในสมัยโบราณการกินเจกับคนจีนสมัยโบราณ มีความเชื่อว่าเกี่ยวกับเทพเจ้ามาก ทำให้เชื่อว่าเทพเจ้าไม่ได้คุยกันทุกคนนะคะขอให้พระเจ้าจะคุยกับเฉพาะคนที่เหมาะสมเท่านั้นซึ่งคนที่เหมาะสม อาจจะเป็นโอรสสวรรค์ ฮ่องเต้ คนพิเศษที่สวรรค์อยากคุยด้วย และต้องเป็ยคนที่สะอาดบริสุทธิ์ทั้งกายและใจดังนั้นใครที่จะไปขอร้องสำคัญกับพระเจ้าก็เลยจะต้องอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ชำระจิตใจให้สะอาด เป็นต้น
ใน “คัมภีร์หลีจี้” เขาบันทึกไว้ว่าเวลาฮ่องเต้มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบ้านเมืองก็จะมีการติดต่อสื่อสารกับสวรรค์ เพื่อแก้ไขเรื่องทุกข์ร้อน ปากท้อง ของประชาชนที่ทรงปกครอง เช่น เรื่องฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล อุทกภัยน้ำท่วมรุ่นแรง ภัยพิบัติ หรือ โรคระบาดต่างๆ เป็นต้น ในฐานะโอรสสวรรค์จีนฮ่องเต้ก็ต้องทำตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ โดยการถือศีลกินเจ นั่นเอง
การกินเจเริ่มเป็นที่นิยม มากขึ้นเนื่องจากมีพวกผักผลไม้ต่าง ๆ มีการหลั่งไหลเข้าไปในประเทศจีนดังนั้นการกินเจก็มีมากรวมไปถึงเกิดการคิดค้นพวกเต้าหู้แล้วก็ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองต่าง ๆ เมื่อมีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเมื่อมีผักผลไม้จากต่างประเทศเข้ามาก็ทำให้การกินเจเข้าถึงได้ง่าย
ทำไมเราต้องกินเจในช่วงเดือน 9 นี้ต้องพูดถึง ความเชื่อในอีก 1 ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์เหนือใต้ ศาสนาพุธทเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจีนอิทธิพลของศาสนาพุทธที่แพร่กระจายไปทั่วซึ่งทำให้เกิดการผสมผสานกันระหว่างความเชื่อพูทธกับความเชื่อดั้งเดิมเรื่องการกินเจ นั้นเอง
เพิ่มเติม : ศาสนาพุทธที่มีหลากหลายนิกายซึ่งในที่นี้ นิกายที่มีการเปรียบเทียบเรื่องกินเจ คือ นิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์ที่ชาวไทยนับถือ ดังนั้นกฎข้อบังคับต่างๆ จะแตกต่างกันไป
ประเทศจีนในช่วงฤดูหนาวในบางพื้นที่พระไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้มีการเก็บตุนอาหารเอาไว้แล้วก็ต้องมีการทำกับข้าวฉันเองรวมไปถึงช่วงไหนที่ประเทศจีนยากจนข้นแค้น วิกฤตเศรษฐกิจต่างๆ ชาวบ้านไม่ใส่บาตรพระ แต่ศาสนาพุธไม่ให้ฆ่าสัตว์จึงทำให้ ความเชื่อพุธทกับความเชื่อของการกินเจ ประสานเขาด้วยกัน เป็นต้น
นอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์แล้วก็จะไม่กินผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิดต่อไปนี้บ้างอะไรอย่างนี้นะคะช่วงนี้ก็ไม่ค่อยสืบทอดกันมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นวิถีชีวิตการกินเจ
ในสมัยปัจจุบันนี้ความเชื่อเรื่องการกินเจนี่ก็เป็นอีกความเชื่อนึงค่ะก็คือความเชื่อของลัทธิเต๋า ซึ่งในลัทธิเต๋าบางประการมีความเชื่อว่าคนที่บวชในลัทธิเต๋านั้นจะต้องกินเจตลอดชีวิต ทำให้ความเชื่อเรื่องการกินเจในจีนมีหลากหลายออกไปไปอีก
ทำไมคนเราถึงเลือกกินเจที่เดือน 9 เหตุเพราะมีความเชื่อหนึ่ง เกี่ยวเรื่องของกรรม และดวงชตา ที่เป็นความเชื่อเกี่ยวกับดาวนพเคราะห์ โดยปกติแล้ว คนจีนก็จะกินเจกันทุกเดือน เดือนละประมาณ1-2 ครั้งต่อวันท่านั้น และตามปฏิทินจีนดาวนพเคราะห์กลุ่มนี้ จะโคจรมาอยู่บริเวณขอบฟ้าทุกคนจะสามารถเห็นกลุ่มดาวในช่วงเดือน 9 ตอนช่วงรุ่งสางกับช่วงหัวค่ำเท่านั้น
เพิ่มเติม : คนโบราณเชื่อว่าดวงกลุ่มนี้เป็นสะพานของเทพเจ้าที่ลงมาดูความดีของมนุษย์
ความเชื่อแบบจีนโบราณการทำชั่วขึ้นมามันอาจจะไม่ได้ตกกับตัวเองคนเดียวมันอาจจะตกไปถึงลูกถึงหลานถึงทายาทต่อไปในอนาคตเมื่อเราดวงตก ก็จะทำให้เวรกรรมที่สร้างโดยรุ่นปู่ รุ่นย่า พ่อและแม่ ตามมาทั้นในช่วงเดือน 9 นั้นเอง
การกินเจเป็นการถือศีลเพื่อความบริสุทธิ์แบบจีน โบราณ ถาวร สิกขโกศล ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนอธิบายว่า คนจีนโบราณเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่รับการติดต่อเช่นสรวงจากคนสกปรกมีมลทิน ดังนั้นก่อนการประกอบพิธีสำคัญ ผู้เข้าพิธีจะต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสวมเสื้อผ้าชุดใหม่
ถือศีลงดเว้นอาหารสดคาว งดเนื้อสัตว์และผักฉุนกลิ่นแรง งดสุรา กิจกรรมทางเพศ สำรวมกายใจให้บริสุทธิ์สะอาด ในพื้นที่เฉพาะตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นถึงแรงศรัทธา ซึ่งเป็นที่มาของการกินเจนั่นเอง
การกินเจในชนชั้นสูงปรากฎหลักฐานในคัมภีร์หลี่จี้ (อธิบายจารีต) ที่กล่าวถึงการกินเจในสมัยราชวงศ์โจวซึ่งเคยรุ่งเรื่องเมื่อราว 1046-256 ปีก่อนคริสต์กาลว่า “เมื่อทำพิธีเช่นสรวงบูชาประมุขต้องกินเจ เจคือความเรียบร้อยบริสุทธิ์, ชำระกายใจที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์แน่วแน่ หากไม่มีเรื่องสำคัญ,ไม่มีเรื่องที่ต้องเคารพนบนอบ, ประมุขก็จะไม่กินเจ”